‘‘ราคาน้ำมัน” เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่หลายๆคน สงสัยกันว่าทำไมในช่วงนี้ ราคาถึงขยับขึ้น-ลง และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าหลายคนที่ต้องใช้รถยนต์กันเป็นประจำก็อดสงสัยกันไม่ได้ว่า เมื่อปีที่แล้วราคาน้ำมันยังถูกกว่านี้ แต่ทำไมปีนี้ราคามันแพงขึ้นได้ขนาดนี้กันนะ? ซึ่งหลายคนก็คงจะพอรู้กันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีอีกจำนวนไม่น้อยที่อาจจะยังไม่รู้ วันนี้ rodpromptkai มีคำตอบ ไปดูกันเลยว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง
1.ฤดูกาลกับสภาพภูมิอากาศ
ฤดูกาลส่งผลกับราคาน้ำมันในตลาดโลก เมื่อฤดูเปลี่ยนความต้องการใช้น้ำมันปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น ในฤดูหนาวน้ำมันจะมีราคาสูงกว่าฤดูร้อน ในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา จึงมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพิ่มขึ้นเพื่อทำความอบอุ่น
2.ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบในตลาดโลก หากเกิดความไม่สงบหรือความขัดแย้งทางการเมือง การทหาร ก็จะส่งผลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะสูงขึ้นได้ในช่วงเวลานั้น
3.สภาพเศรษฐกิจโลก
การเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ความต้องการใช้น้ำมันจะสูงขึ้น ในทางกลับกันราคาน้ำมันอาจปรับตัวลดลงเมื่อเศรษฐกิจไม่ขยายตัวหรือถดถอย เพราะมีปริมาณน้ำมันมากกว่าความต้องการของตลาด เช่น กรณีการระบาดของโควิด-19 แต่ปัจจุบันเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 จึงส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
4.สงครามการค้าการสหรัฐและจีน
อีกหนึ่งปัจจัยที่สองยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจของโลกทำสงครามการค้าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศต่างใช้มาตรการทางการค้าตอบโต้กันไปมา รวมถึงการคว่ำบาตรสินค้าของฝ่ายตรงข้าม และการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าจากแต่ละฝ่าย ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันโลก
5.กำลังการผลิตของผู้ผลิตน้ำมันและโรงกลั่น
ถ้าผู้ผลิตไม่สามารถผลิตน้ำมันได้เพียงพอกับความต้องการก็จะส่งผลให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน หากความต้องการน้ำมันดิบลดลงเหลือน้อยกว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบที่ผลิตได้ ก็จะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หรือหากประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบปรับเพิ่มอัตราการผลิต ทำให้มีปริมาณน้ำมันดิบในตลาดเพิ่มขึ้น ก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงได้เช่นกัน ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (กลุ่ม OPEC) ได้มีการตกลงโควต้าการผลิตน้ำมันดิบ จึงส่งผลให้ทั่วโลกเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
6.การเก็งกำไรของตลาด
น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปนั้นทำการซื้อขายกันในตลาดเปิด จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรของตลาดได้ รวมทั้งน้ำมันเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากบรรดานักลงทุนและการเก็งกำไร มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันผันผวนได้
7.ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
น้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดหลักของโลกนั้นซื้อขายกันด้วยเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหรือความผันผวนเกิดขึ้นกับอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินท้องถิ่นกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ต้นทุนในการซื้อน้ำมันดิบหรือน้ำมันสำเร็จรูปในแต่ละประเทศก็จะเปลี่ยนแปลงตามอัตราแลกเปลี่ยนไปด้วย
8.พลังงานทดแทนและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพลังงาน
ในอนาคต หากการพัฒนาพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ เช่น แสงอาทิตย์ ไฟฟ้า ไฮโดรเจน ฯลฯ สามารถผลิตได้เพียงพอต่อการใช้งานในราคาที่สามารถแข่งขันกับราคาน้ำมันได้ อาจส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง ตลอดจนนโยบายการยกเลิกการใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในหลายประเทศ ก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงได้
จากทั้งหมดที่กล่าวมา คงจะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยให้กับทุกคนได้บ้างแล้วว่า เพราะอะไรราคาน้ำมันถึงขึ้นๆ ลงๆ หากวันไหนราคาน้ำมันขึ้นสูง รถพร้อมขายมีทริคดีๆมาแนะนำ ขับรถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันที่สุด ทำได้ง่ายๆ แถมช่วยประหยัดน้ำมันรถของคุณ หรือใครอยากขายรถ หรือกำลังมองหารถมือสองประหยัดน้ำมัน ราคาดีๆ ต้องที่รถพร้อมขาย มีแต่รถคุณภาพดีคัดมาให้คุณได้เลือกแล้วครับ สามารถเข้ามาชมได้ที่ Rodpromptkai.com ครบจบในเว็บเดียว