หนึ่งในปัญหาสุดกวนใจของคนใช้รถก็คือ "รถสตาร์ทไม่ติด" โดยเฉพาะเวลาที่รีบๆ ไปทำงาน บอกเลยว่าหงุดหงิดสุดๆ วันนี้เราจะพามาเช็กสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่คุณสามารถทำเองได้ ก่อนจะต้องเรียกช่างมาช่วย ซึ่งถ้าใครกำลังหารถที่พร้อมใช้งานแบบไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาเหล่านี้ "รถพร้อมขาย" ก็เป็นอีกตัวเลือกดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
สาเหตุยอดฮิตอันดับหนึ่งคือ แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมสภาพ เมื่อแบตเตอรี่ไม่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอ ระบบไฟฟ้าในรถก็จะทำงานผิดปกติทำให้สตาร์ทไม่ติด หากคุณบิดกุญแจแล้วไม่มีเสียงหรือไฟหน้าปัดไม่ขึ้น อาจจะเป็นเพราะแบตเตอรี่หมด
ไดสตาร์ททำหน้าที่หมุนเครื่องยนต์ตอนสตาร์ท หากเสียหรือทำงานผิดปกติ รถจะไม่มีเสียงหมุนของเครื่องยนต์เลยหรือมีเสียงคล้ายมอเตอร์หมุนอืดๆ
หากรถเงียบสนิทไม่มีการตอบสนองจากเครื่องยนต์หรือสตาร์ทติดแต่เร่งไม่ขึ้น อาจจะเป็นเพราะน้ำมันหมดหรือปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงมีปัญหา ตรวจเช็กระดับน้ำมันและหากมีน้ำมันอยู่แต่ยังสตาร์ทไม่ติด อาจจะต้องให้ช่างตรวจสอบหัวฉีด
ไฟหน้าปัดไม่ขึ้น ไฟส่องสว่างไม่ทำงานหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ อาจจะเกิดจากการฟิวส์ขาดหรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา
ถ้าปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ทำงาน เครื่องยนต์จะไม่ได้รับน้ำมัน ส่งผลให้สตาร์ทไม่ติดเช่นกัน
หากกดปุ่มสตาร์ทแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือมีไฟเตือนระบบกันขโมยขึ้น อาจเป็นเพราะกุญแจรีโมทหรือระบบกันขโมยมีปัญหา ลองใช้กุญแจสำรองหรือถอดแบตเตอรี่ออกจากรีโมทแล้วใส่ใหม่ วิธีแก้ปัญหา👉คลิก
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไงดี! รีโมทรถยนต์ใช้งานไม่ได้
3 สัญญาณเตือนถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าเบรกรถยนต์
ปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ ตั้งแต่แบตเตอรี่เสื่อม ไดสตาร์ทพัง น้ำมันหมด หรือระบบไฟฟ้ามีปัญหา การรู้จักเช็กเบื้องต้นด้วยตัวเองจะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ถ้าไม่มั่นใจอย่าลังเลที่จะเรียกช่างมาดูแล เพื่อความปลอดภัยของทั้งรถและตัวคุณ และถ้าคุณอยากได้รถที่พร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลปัญหาจุกจิก รถพร้อมขาย ก็มีรถบ้านคุณภาพดีให้เลือกมากมายในราคาสบายกระเป๋า
สามารถอ่านบทความต่างๆเกี่ยวกับรถได้ที่นี่
รถมือสองราคาเริ่มต้นหลักหมื่น คลิก
ลงขายรถฟรีได้ ทีนี่