เติมน้ำมันผิดประเภท ทำยังไงดี รถจะพังไหม ?

12 Feb 2025
Share แชร์ Share on Facebook Share on Twitter Share on Line
what-to-do-if-you-put-the-wrong-fuel-in-your-car

     เคยสงสัยหรือไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณถ้าหากคุณเติมน้ำมันผิดประเภท อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย หรืออาจจะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ บางครั้งอาจเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของเราที่หลงลืม หรือเกิดจากความผิดพลาดของเด็กปั๊มเติมที่เติมให้ผิดก็เป็นได้ หากเจอปัญหานี้อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแต่ก็ส่งผลให้รถพังได้เช่นกัน ! 


เครื่องยนต์มีกี่ประเภท ?

   รถยนต์ในปัจจุบันแบ่งเครื่องยนต์ออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล

      1. เครื่องเบนซิน คือ เครื่องยนต์ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศภายในห้องเครื่องผสมกันในชิ้นส่วนเครื่องที่เรียกว่า “คาร์บูเรเตอร์” แล้วนำส่วนผสมที่ได้เข้าสู่ระบบเครื่องทางกระบอกสูบ และทำการจุดระเบิดภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ รถยนต์ โดยใช้ประกายไฟที่จุดจากหัวเทียน เครื่องเบนซินยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ตามจังหวะการทำงานภายในรถยนต์ ได้แก่ เครื่อง 4 จังหวะ และเครื่อง 2 จังหวะ


น้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน

  • เบนซินพิเศษ หรือ เบนซินออกเทน 95 ใช้ได้กับรถยนต์เครื่องเบนซินทุกประเภท มีค่าออกเทนสูง 95% ทำให้เผาไหม้ได้ดี ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง
  • แก๊สโซฮอล์ 91 (E10) , 95 (E10) , E20 , E85 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตมาทดแทน เบนซินออกเทน มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน และ เอทานอล (เอทิลแอลกอฮอล์) อัตราส่วนดูได้จากตัวอักษรและตัวเลขที่ต่อท้ายชื่อ เช่น แก๊สโซฮอล์ E20 ก็คือ น้ำมันเบนซินออกเทน 95 : 80% ผสมกับ เอทานอล 20%


   2. เครื่องดีเซล คือ เครื่องยนต์ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเครื่องประเภทนี้ยังมีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า เครื่องจุดระเบิดด้วยกำลังอัด (Compression Ignition Engine) มีหลักการทำงาน คือ การอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบด้วยกำลังที่สูง และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอัดฉีดเข้าไปภายในกระบอกสูบด้วยแรงอัดที่สูง ทำให้เกิดการจุดระเบิดภายในกระบอกสูบ และทำให้ได้พลังงานออกมาใช้งาน ซึ่งจะต่างจากเครื่องยนต์ รถยนต์เบนซิน


น้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล

  • น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลที่มีความเร็วรอบสูงเกิน 1000 รอบ/นาที
  • น้ำมันดีเซล เกรดพรีเมียม เป็นน้ำมันดีเซลสูตรพิเศษ มีชื่อเรียกต่างกันตามแต่ละแบรนด์ น้ำมันประเภทนี้เผาไหม้ได้ดีและหมดจด แต่ราคาจะสูงกว่าน้ำมันดีเซลแบบปกติ 
  • ไบโอดีเซล B7/ B10 (กระทรวงพลังงานปรับชื่อเป็น น้ำมันดีเซล)/ B20 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผลิตจาก น้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ทั้งที่ยังไม่ได้ใช้งานหรือผ่านการใช้งานแล้ว นำมาทำปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า ‘ทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น’ กับ เมทานอล เกิดเป็นสารที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล อัตราส่วนผสมดูได้จากตัวอักษรและตัวเลขที่ต่อท้ายชื่อ เช่น ไบโอดีเซล B10 ก็คือ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ผสมกับ ไบโอดีเซล 10%

      โดยเครื่องยนต์แต่ละประเภท ก็จำเป็นจะต้องเติมน้ำมันให้ได้ถูกต้องตามประเภทของเครื่องยนต์นั้นๆ หากเติมน้ำมันผิด หรือเติมน้ำมันสลับกันขึ้นมา เครื่องยนต์มีปัญหาแน่นอน !!


เติมน้ำมันผิดประเภท รถจะเป็นยังไง ?

      ความผิดปกติของเครื่องยนต์เมื่อเติมน้ำมันผิด จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่า เติมเบนซินลงเครื่องยนต์ดีเซล หรือเติมดีเซลลงเครื่องยนต์เบนซิน สามารถสังเกตอาการ ได้ดังนี้


กรณีเติมผิด : เครื่องยนต์ดีเซล แต่เติมน้ำมันเบนซิน

1. มีควันดำออกมาจากท่อไอเสียมากกว่าปกติเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ สะดุด และเครื่องยนต์ดับได้ในที่สุด

2. มีปัญหาในการสตาร์ทเครื่องใหม่ ไม่สามารถสตาร์ทรถยนต์ได้

3. หัวฉีดเกิดการฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้แล้วเกิดการลุกไหม้เร็วจนเกินไปทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและดับทันที

4. อุปกรณ์ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย เช่น ไส้กรองน้ำมันดีเซล ปั๊มหัวฉีดแรงดันสูง และหัวฉีดดีเซล


กรณีเติมผิด : เครื่องยนต์เบนซิน แต่เติมน้ำมันดีเซล

1. จะทำให้หัวฉีดอุดตัน (น้ำมันดีเซลมีค่าความหนืดมากกว่าเบนซิน) หัวฉีดฉีดไม่เป็นฝอยละออง จึงทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟแล้วเผาไหม้ได้ยากทำให้เครื่องยนต์ดับ

2. ไส้กรองเบนซินอุดตัน หัวฉีดฉีดไม่เป็นฝอยละอองและเขี้ยวหัวเทียนมีคราบเขม่าจับมาก

3. เครื่องยนต์จะมีเสียงดังขณะที่คุณกำลังเร่งความเร็ว อัตราการเร่งเครื่องยนต์ช้ากว่าปกติและไม่สามารถทำความเร็วได้ดี

4. ระบบแสดงไฟเตือนเครื่องยนต์ปรากฎขึ้น และส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ในที่สุดไม่สามารถสตาร์ทรถใหม่ได้


ทำไมการเติมน้ำมันผิดประเภทถึงทำให้รถพังได้ ?

      เพราะน้ำมันคนละชนิดกันจะมีระดับการเผาไหม้ของน้ำมันแตกต่างกัน เมื่อเติมน้ำมันคนละประเภทลงในถังน้ำมันที่มีน้ำมันเดิมค้างอยู่ เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้การเผาไหม้สะดุด ส่งผลให้การทำงานของลูกสูบไม่เป็นไปตามจังหวะที่ควรเป็น เครื่องยนต์ทำงานไม่ได้และทำให้เครื่องดับในที่สุด หากไม่รีบแก้ไขปัญหาจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้

เติมน้ำมันผิดทำยังไงดี ?

กรณีรู้ก่อนสตาร์ท

1. ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด เพราะการสตาร์ทรถจะทำให้น้ำมันไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ จากนั้นให้ทำการถ่ายน้ำมันออก และทำการไล่ระบบใหม่

2. เติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปใหม่ เพื่อป้องกันความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์

3. สตาร์ทเครื่องยนต์ หลังจากเติมน้ำมันใหม่ ให้ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้สักพักเพื่อสังเกตว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้าง

4. ทดสอบระบบเครื่องยนต์ หลังจากทำการทดสอบระบบแล้ว หากพบว่าไม่เกิดปัญหาอะไรกับเครื่องยนต์ ให้ลองเร่งเครื่อง ทดสอบการใช้ระบบต่างๆในเครื่องยนต์ หากระบบปกติ หมายความว่าการถ่ายน้ำมันเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งานรถยนต์ได้เลย


กรณีรู้หลังสตาร์ท

      กว่าจะรู้ว่าเติมน้ำมันผิด รถก็ดับกลางทางไปเสียแล้ว จะทำยังไงดี?

1. ตรวจสอบใบเสร็จว่าเราเติมน้ำมันอะไร หากเช็กแล้วว่าในใบเสร็จถูกต้องแต่พนักงานปั๊มเติมให้เราผิด ก็ให้ติดต่อไปที่ปั๊มน้ำมันนั้นๆ พร้อมแสดงใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐาน 

2. ถ่ายน้ำมันออกจากถังให้หมด จากนั้นให้ทำการไล่ระบบน้ำมันใหม่ จากนั้นเติมน้ำมันที่ถูกต้องใหม่ จากนั้นลองทำการไล่ระบบน้ำมันอีกครั้ง

3. ทำความสะอาดหัวเทียนและไส้กรอง รถยนต์เครื่องเบนซิลให้ทำการถอดหัวเทียนออกมาทำความสะอาดใหม่ ส่วนรถยนต์เครื่องดีเซลให้ถอดเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงมาทำความสะอาดใหม่

4. สตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ในขณะที่ลองสตาร์ทใหม่ ติดยากหรือติด ๆ ดับ ๆ ให้พยายามสตาร์ทต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ารถยนต์จะติดเสถียร ไม่ดับ แล้วปล่อยให้รถเดินเครื่องเองสักพัก

5. ทดสอบเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เดินเรียบดีแล้ว ให้ลองเร่งเครื่อง พร้อมกับเปิดฟังก์ชั่นที่ต้องใช้ขณะขับใช้งานปกติ หากไม่มีสิ่งผิดปกติ แปลว่าการถ่ายน้ำมันเสร็จสิ้น ไม่มีปัญหา สามารถใช้รถยนต์ได้ตามปกติ


หากเติมน้ำมันผิด ใครจะรับผิดชอบ ?

      ปัญหานี้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนผิด หากผู้ขับขี่ที่แจ้งเด็กปั๊มผิดก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าหากแจ้งถูกแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ปั๊มที่ผิดพลาดเติมผิด ทางปั๊มน้ำมันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ


วิธีป้องกันไม่ให้เติมน้ำมันผิด 

1. เมื่อถึงปั๊มให้จอดรถให้ตรงกับแหล่งจ่ายน้ำมัน 

2. แจ้งชื่อน้ำมันที่ต้องการเติมกับเจ้าหน้าที่ปั๊มให้ชัดเจน และคอยสังเกตว่าพนักงานเติมได้ถูกต้องหรือไม่

3. เก็บใบเสร็จการเติมน้ำมันไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดความผิดพลาดอย่างการเติมน้ำมันผิด จะได้ทราบผู้รับผิดชอบได้อย่างชัดเจน
 

      การเติมน้ำมันผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด ถึงแม้จะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่บ่อย แต่ก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ควรศึกษาการแก้ปัญหาเบื้องต้นเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้คุณดูแลรถของคุณไม่ให้ได้รับความเสียหายได้

      หากใครสนใจซื้อรถมือสอง สามารถค้นหารถมือสองราคาถูก เปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด ได้สภาพดี  ได้ง่ายๆ กับ RodPromptKai มีรถพร้อมขายให้เลือกจากหลากหลายแบรนด์ดัง รับประกันคุณภาพ ในราคาที่โดนใจ หรือลงขายรถมือสอง รถบ้านเจ้าของขายเอง ลงขายในราคาที่คุณพอใจ เปรียบเทียบราคารถบนเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่เว็บไซต์ได้เลย เรื่องซื้อขายรถมือสองต้องที่ RodPromptkai.com เท่านั้น !
 

บทความที่น่าสนใจ

วิธีหาปั๊มน้ำมันใกล้ฉัน

ฝาถังน้ำมันทำไมถึงไม่อยู่ฝั่งเดียวกัน

ขับรถยังไง? ให้ประหยัดน้ำมันที่สุด