เคยสงสัยหรือไม่ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณถ้าหากคุณเติมน้ำมันผิดประเภท อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย หรืออาจจะไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ บางครั้งอาจเกิดขึ้นเพราะความผิดพลาดของเราที่หลงลืม หรือเกิดจากความผิดพลาดของเด็กปั๊มเติมที่เติมให้ผิดก็เป็นได้ หากเจอปัญหานี้อย่าชะล่าใจเด็ดขาด ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรงแต่ก็ส่งผลให้รถพังได้เช่นกัน !
รถยนต์ในปัจจุบันแบ่งเครื่องยนต์ออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล
1. เครื่องเบนซิน คือ เครื่องยนต์ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศภายในห้องเครื่องผสมกันในชิ้นส่วนเครื่องที่เรียกว่า “คาร์บูเรเตอร์” แล้วนำส่วนผสมที่ได้เข้าสู่ระบบเครื่องทางกระบอกสูบ และทำการจุดระเบิดภายในกระบอกสูบของเครื่องยนต์ รถยนต์ โดยใช้ประกายไฟที่จุดจากหัวเทียน เครื่องเบนซินยังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ตามจังหวะการทำงานภายในรถยนต์ ได้แก่ เครื่อง 4 จังหวะ และเครื่อง 2 จังหวะ
น้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน
2. เครื่องดีเซล คือ เครื่องยนต์ รถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเครื่องประเภทนี้ยังมีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า เครื่องจุดระเบิดด้วยกำลังอัด (Compression Ignition Engine) มีหลักการทำงาน คือ การอัดอากาศเข้าไปในกระบอกสูบด้วยกำลังที่สูง และใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอัดฉีดเข้าไปภายในกระบอกสูบด้วยแรงอัดที่สูง ทำให้เกิดการจุดระเบิดภายในกระบอกสูบ และทำให้ได้พลังงานออกมาใช้งาน ซึ่งจะต่างจากเครื่องยนต์ รถยนต์เบนซิน
น้ำมันที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล
โดยเครื่องยนต์แต่ละประเภท ก็จำเป็นจะต้องเติมน้ำมันให้ได้ถูกต้องตามประเภทของเครื่องยนต์นั้นๆ หากเติมน้ำมันผิด หรือเติมน้ำมันสลับกันขึ้นมา เครื่องยนต์มีปัญหาแน่นอน !!
ความผิดปกติของเครื่องยนต์เมื่อเติมน้ำมันผิด จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่า เติมเบนซินลงเครื่องยนต์ดีเซล หรือเติมดีเซลลงเครื่องยนต์เบนซิน สามารถสังเกตอาการ ได้ดังนี้
1. มีควันดำออกมาจากท่อไอเสียมากกว่าปกติเครื่องยนต์ทำงานผิดปกติ สะดุด และเครื่องยนต์ดับได้ในที่สุด
2. มีปัญหาในการสตาร์ทเครื่องใหม่ ไม่สามารถสตาร์ทรถยนต์ได้
3. หัวฉีดเกิดการฉีดน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้แล้วเกิดการลุกไหม้เร็วจนเกินไปทำให้เครื่องยนต์ไม่มีกำลังและดับทันที
4. อุปกรณ์ของระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย เช่น ไส้กรองน้ำมันดีเซล ปั๊มหัวฉีดแรงดันสูง และหัวฉีดดีเซล
1. จะทำให้หัวฉีดอุดตัน (น้ำมันดีเซลมีค่าความหนืดมากกว่าเบนซิน) หัวฉีดฉีดไม่เป็นฝอยละออง จึงทำให้หัวเทียนจุดประกายไฟแล้วเผาไหม้ได้ยากทำให้เครื่องยนต์ดับ
2. ไส้กรองเบนซินอุดตัน หัวฉีดฉีดไม่เป็นฝอยละอองและเขี้ยวหัวเทียนมีคราบเขม่าจับมาก
3. เครื่องยนต์จะมีเสียงดังขณะที่คุณกำลังเร่งความเร็ว อัตราการเร่งเครื่องยนต์ช้ากว่าปกติและไม่สามารถทำความเร็วได้ดี
4. ระบบแสดงไฟเตือนเครื่องยนต์ปรากฎขึ้น และส่งผลให้เครื่องยนต์ดับได้ในที่สุดไม่สามารถสตาร์ทรถใหม่ได้
เพราะน้ำมันคนละชนิดกันจะมีระดับการเผาไหม้ของน้ำมันแตกต่างกัน เมื่อเติมน้ำมันคนละประเภทลงในถังน้ำมันที่มีน้ำมันเดิมค้างอยู่ เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์จะทำให้การเผาไหม้สะดุด ส่งผลให้การทำงานของลูกสูบไม่เป็นไปตามจังหวะที่ควรเป็น เครื่องยนต์ทำงานไม่ได้และทำให้เครื่องดับในที่สุด หากไม่รีบแก้ไขปัญหาจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้
กรณีรู้ก่อนสตาร์ท
1. ห้ามสตาร์ทรถเด็ดขาด เพราะการสตาร์ทรถจะทำให้น้ำมันไหลเข้าไปในเครื่องยนต์ จากนั้นให้ทำการถ่ายน้ำมันออก และทำการไล่ระบบใหม่
2. เติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปใหม่ เพื่อป้องกันความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับเครื่องยนต์
3. สตาร์ทเครื่องยนต์ หลังจากเติมน้ำมันใหม่ ให้ลองสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้สักพักเพื่อสังเกตว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้าง
4. ทดสอบระบบเครื่องยนต์ หลังจากทำการทดสอบระบบแล้ว หากพบว่าไม่เกิดปัญหาอะไรกับเครื่องยนต์ ให้ลองเร่งเครื่อง ทดสอบการใช้ระบบต่างๆในเครื่องยนต์ หากระบบปกติ หมายความว่าการถ่ายน้ำมันเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งานรถยนต์ได้เลย
กรณีรู้หลังสตาร์ท
กว่าจะรู้ว่าเติมน้ำมันผิด รถก็ดับกลางทางไปเสียแล้ว จะทำยังไงดี?
1. ตรวจสอบใบเสร็จว่าเราเติมน้ำมันอะไร หากเช็กแล้วว่าในใบเสร็จถูกต้องแต่พนักงานปั๊มเติมให้เราผิด ก็ให้ติดต่อไปที่ปั๊มน้ำมันนั้นๆ พร้อมแสดงใบเสร็จเพื่อเป็นหลักฐาน
2. ถ่ายน้ำมันออกจากถังให้หมด จากนั้นให้ทำการไล่ระบบน้ำมันใหม่ จากนั้นเติมน้ำมันที่ถูกต้องใหม่ จากนั้นลองทำการไล่ระบบน้ำมันอีกครั้ง
3. ทำความสะอาดหัวเทียนและไส้กรอง รถยนต์เครื่องเบนซิลให้ทำการถอดหัวเทียนออกมาทำความสะอาดใหม่ ส่วนรถยนต์เครื่องดีเซลให้ถอดเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงมาทำความสะอาดใหม่
4. สตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ในขณะที่ลองสตาร์ทใหม่ ติดยากหรือติด ๆ ดับ ๆ ให้พยายามสตาร์ทต่อไปเรื่อยๆ จนกว่ารถยนต์จะติดเสถียร ไม่ดับ แล้วปล่อยให้รถเดินเครื่องเองสักพัก
5. ทดสอบเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์เดินเรียบดีแล้ว ให้ลองเร่งเครื่อง พร้อมกับเปิดฟังก์ชั่นที่ต้องใช้ขณะขับใช้งานปกติ หากไม่มีสิ่งผิดปกติ แปลว่าการถ่ายน้ำมันเสร็จสิ้น ไม่มีปัญหา สามารถใช้รถยนต์ได้ตามปกติ
ปัญหานี้ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนผิด หากผู้ขับขี่ที่แจ้งเด็กปั๊มผิดก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าหากแจ้งถูกแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ปั๊มที่ผิดพลาดเติมผิด ทางปั๊มน้ำมันก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ
1. เมื่อถึงปั๊มให้จอดรถให้ตรงกับแหล่งจ่ายน้ำมัน
2. แจ้งชื่อน้ำมันที่ต้องการเติมกับเจ้าหน้าที่ปั๊มให้ชัดเจน และคอยสังเกตว่าพนักงานเติมได้ถูกต้องหรือไม่
3. เก็บใบเสร็จการเติมน้ำมันไว้ทุกครั้ง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีเกิดความผิดพลาดอย่างการเติมน้ำมันผิด จะได้ทราบผู้รับผิดชอบได้อย่างชัดเจน
การเติมน้ำมันผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควรชะล่าใจเด็ดขาด ถึงแม้จะมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่บ่อย แต่ก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น ควรศึกษาการแก้ปัญหาเบื้องต้นเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์จะช่วยให้คุณดูแลรถของคุณไม่ให้ได้รับความเสียหายได้
หากใครสนใจซื้อรถมือสอง สามารถค้นหารถมือสองราคาถูก เปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุด ได้สภาพดี ได้ง่ายๆ กับ RodPromptKai มีรถพร้อมขายให้เลือกจากหลากหลายแบรนด์ดัง รับประกันคุณภาพ ในราคาที่โดนใจ หรือลงขายรถมือสอง รถบ้านเจ้าของขายเอง ลงขายในราคาที่คุณพอใจ เปรียบเทียบราคารถบนเว็บไซต์ หรือปรึกษาเจ้าหน้าที่เว็บไซต์ได้เลย เรื่องซื้อขายรถมือสองต้องที่ RodPromptkai.com เท่านั้น !
บทความที่น่าสนใจ